วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ยาลดคอเลสเตอรอล VS ไบออสไลฟ์





 ยากลุ่ม Statins เป็นยาลดคอเลสเตอรอลและไขมัน มีประโยชน์อย่างยิ่งในการป้องกันและรักษาโรคหัวใจ แต่ผู้ใช้ยาสเตตินมีความเสี่ยงต่อการทำงานผิดปรกติของตับ เกิด ไตวายเฉียบพลันและเป็นต้อหิน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่าสุขภาพหัวใจสำคัญกว่าอย่างอื่น

ยากลุ่มสแตติน ได้แก่ ยา Simvastatin, Atorvastatin Provachol, Rituvastatin เป็นยาลดคอเลสเตอรอล มีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดหรือหัวใจวาย ขณะเดียวกันยาเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น กล้ามเนื้อผิดปรกติ การศึกษาครั้งใหม่ในคนกว่า 2 ล้านคนตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002-2008 
พบอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นอีกหลายประการได้แก่ กล้ามเนื้อพิการ ไตวายเฉียบพลัน ตับพิการ และโรคต้อหินและมียา 2 ชนิด ที่อาการเหล่านี้ขึ้นกับขนาดการใช้ Dr. Julia Hippisley-Cox หัวหน้าคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอตติงแฮม รายงาน ในด้านที่เป็นผลบวกการใช้ยาสแตตินไม่เกี่ยวกับการเกิดโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ และไม่เกี่ยวกับการเกิดโรคพาร์กินสัน โรคข้อ โรคเลือดแข็งตัว สมองเสื่อม หรือกระดูกหัก 
ผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นว่ายากลุ่มสเตตินมีผลดีในการลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ 
การพบอาการข้างเคียงต่าง ๆ จากการศึกษาครั้งใหม่นี้คงไม่ต้องทำให้ต้องหยุดใช้ยาสแตติน ผลดีที่ได้
ผู้วิจัยพบว่าในสตรีที่มีความเสี่ยงสูง 10,000 รายที่ได้รับยาสแตตินจะมีการเสียชีวิตจากโรคหัวใจลดลง 217 ราย และเป็นมะเร็งหลอดอาหารลดลง 8 ราย ในขณะที่ผู้ใช้ยาสเตติน 10,000 คนนี้เกิดตับพิการ 740 ราย มี 23 รายเกิดไตวายเฉียบพลัน 307 รายมีปัญหาต้อกระจกตา และ 39 รายมีกล้ามเนื้อพิการ ส่วนในผู้ชายก็ได้ผลคล้ายกันเว้นแต่ว่ามีกล้ามเนื้อพิการมากกว่าสตรี 
ปัญหาการใช้ยากลุ่มสแตตินนี้เกิดเช่นเดียวกันกับยาทุกชนิดยกเว้นยา Fluvastatin(Lescol) ซึ่งมีความเสี่ยงต่อตับพิการมากกว่ายาตัวอื่นการเกิดอาการข้างเคียงเหล่านี้เกิดได้ตลอดเวลาที่ใช้ยา แต่จะพบมากสุดในปีแรกของการใช้ยา อาการทางกล้ามเนื้อและผลต่อตับส่วนมากจะเปลี่ยนกลับ คืนสู่สภาพปรกติเมื่อเลิกใช้ยา และไม่มีผลต่อการเกิดมะเร็ง เมื่อเปรียบเทียบผลที่ได้ในการป้องกันโรคหัวใจขาดเลือดกับหัวใจวายก็ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียงต่าง ๆ แล้วยังนับว่าคุ้ม ถือได้ว่ายาสแตตินมีความปลอดภัย แต่ก็เหมือนกับยาอื่น ๆ ทั่วไปที่ไม่ปลอดจากอาการข้างเคียง 


สนับสนุนเนื้อหาโดย วงการยา ฉบับ 143



ไบออสไลฟ์(bios life)


วิตามินและใยอาหาร สูตรที่มีงานวิจัยเด่นชัดว่าสามารถ ช่วยลดคอเลสเตอรอล ลด LDL เพิ่ม HDL ควบคุมเบาหวานป้องกันโรคหัวใจ ไขมันในเส้นเลือด การบริโภคใยอาหารยังช่วยป้องกันมะเร็ง และควบคุมน้ำหนัก

คุณประโยชน์
-ไบออสไลฟ์ ได้รับการยอมรับจากวงการแพทย์ และเภสัชกรโดยได้รับการบันทึกไว้ในหนังสืออ้างอิงทางการแพทย์ Physicians Desk Reference PDR ปี 2005
-ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดและกระตุ้นระบบภูมคุ้มกันของร่างกาย
-มีใยอาหารที่ละลายน้ำได้ (Soluble fiber)ในธัญญพืช ข้าวโพด ข้าวโอ๊ด ข้าวบาร์เล่ย์ ถั่ว ต้านการก่อมะเร็งในระบบทาเดินอาหาร
-มีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินเอ , ซี , อี ,เบต้าแดโรทีน,เซเลเนียม
-มีวิตามิน B1,B2,B3,B16,B12,ไบโอติน,กรดโฟริค เกลือแร่แคลเซี่ยมและสังกะสี
-มีสารโครมเมท (Chrome Mate) ซึ่งเป็นสารประกอบระหว่างอ๊อกซิเจนกับสารโพลีไนโคทิเนท (ไนอาซิน-โครเมียม) ที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้สูง
-ใยอาหารในไบออสไลฟ์ ช่วยลดอัตราการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

จากหนังสือ "หลอดเลือดแข็งตีบตันป้องกันได้" โดย ศ.นพ.เฉลียว ปิยะชน ผู้มีประสบการณ์ตรงจากโรคหลอดเลือด ทั้งหัวใจและสมอง ได้เขียนลงในหนังสือเกี่ยวกับไบออสไลฟ์ดังนี้

เพิ่มคำอธิบายภาพ
ข้อความบางส่วนในหนังสือ

"มีผลิตภัณฑ์อีกตัวหนึ่ง ชื่อ ไบออสไลฟ์ (Bios Life 2) ซึ่งมีไฟเบอร์ละลายน้ำ 4 กรัม และไม่ละลายน้ำ
0.5 กรัม รวมทั้งวิตามินรวมต่างๆ ต่อ 1 หน่วยบริโภค ซึ่งได้รับการทดสอบ และรายงานในวารสาร
Metabolism เมื่อปี 2002 ว่ามีผลทำให้ แอลดีแอลลดลง 10 % เมื่อเทียบกับกลุ่มได้รับยาหลอด หรือ
7.9 % เมื่อเทียบกับค่าพื้นฐานก่อนรับไฟเบอร์ และ ยังทำให้อโปบีลด 20% ด้วย นับป็นผลดี (ส่วน
วิตามิน - โฟแลคก็ทำหน้าที่ลดโฮโมซีสเตอีนอยู่แล้ว)การใช้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมย่อมดีกว่ายา เพราะ
ไม่มีผลข้างเคียง"


ผู้เขียน: ลองเปรียบเทียบกันดูนะครับ หวังว่าคงเป็นประโยช์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะครับ